::วิเคราะห์กราฟEU/GU/xauusd โปรแกรม RobotAutoTrader:
*****************************************************
Scompany offers best spreads, highest liquidity and marketplace
Forex คืออะไร?
ก่อนที่เราจะรู้ว่า Forex สามารถทำรายได้ ได้อย่างไร เราควรรู้ก่อนว่า Forex คืออะไร
Forex ย่อมาจาก Foreign Exchange บางครั้งเรียกย่อว่า FX คือ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
Forex Market หรือ ตลาด Forex เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากกว่า US$ 2 trillion (2 ล้านล้านดอลลาร์) ต่อวัน เป็นตลาดการเงิน ที่มีสภาพคล่องสูงมาก ตลาดเปิดทำการซื้อขาย 24 ชั่วโมง ตลอดวันทำการ โดยหยุดการซื้อขาย แค่วัน เสาร์-อาทิตย์เท่านั้น การซื้อขายใน ตลาด Forex เป็นการซื้อขายค่าเงิน โดยซื้อเงินสกุลหนึ่ง ในขณะเดียวกัน ก็ขายเงินอีกสกุลหนึ่งออกไป หรือเป็นการจับคู่แลกเปลี่ยน ซื้อขายค่าสกุลเงินนั่นเอง ตัวอย่างเช่น เงินสกุลยูโร/ดอลลาร์สหรัฐฯ (EUR/USD) หรือ เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น (USD/JPY) เงินสกุลปอนด์/ดอลล่าร์สหรัฐ (GBP/USD) เป็นต้น
แต่การที่เราจะเล่น Forex เราจะต้องเล่นผ่าน โปรเกอร์ทางอินเตอร์เน็ต และในที่นี้โปรเกอร์ที่แนะนำก็คือ Lite Forex เพราะสมัครฟรี และมีAccount Demo ที่เป็นเงินปลอมไว้ให้หัดเล่น (เล่นเงินปลอมให้ชำนาญก่อนนะ) วันนี้เราจะมารู้จักกับตลาด Forex ให้มากขึ้น
ช่วงเวลาทำการของตลาด?
ตลาดForex นั้นมีหลายแห่งในโลก มีเวลาการเปิดปิดที่คาบเกี่ยวกัน ทำให้เราสามารถลงทุนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ โดยตลาดต่างๆ มีเวลาเปิดปิดดังนี้
ตามเวลาประเทศไทย ตลาดจะเปิดทำการตั้งแต่เวลาตี 4 ของเช้าวันจันทร์ และปิดตี 4 ของเช้าวันเสาร์ (รวม 120 ชั่วโมงต่อสัปดาห์)
ตลาด USD = US Dollar เปิดเวลา 19.00 น. ถึงตี 3
ตลาด GBP = British Pound เปิดเวลา 14.00 - 22.00 น.
ตลาด EUR = Euro เปิดเวลา 13.00 - 21.00 น.
ตลาด CHF = Swiss Franc เปิดเวลา 13.00 - 21.00 น.
ตลาด JPY = Japanese Yen เปิดเวลา 7.00 - 14.00 น.
ตลาด AUD = Australian Dollar เปิดเวลา 5.00 - 13.00 น.
สิ่งที่ควรรู้ ในการเล่นหุ้น-ซื้อขาย สกุลเงิน
1. Forex แล้วได้เงินจริงหรือเปล่า ?
: ได้จริงและเสียจริง อยู่ที่ว่าคุณทำได้หรือเปล่า มันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ คุณต้องขยันศึกษาหาความรู้ หาเทคนิคในการทำกำไร มีหลายคนทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ ทำเป็นอาชีพหลักได้เลย อยู่ที่การฝึกฝนค่ะ เหมือนเป็นอาชีพหนึ่งถ้าคุณตั้งใจ การเล่น Forex จะคล้ายๆ การเล่นหุ้น แต่เป็นการซื้อขายค่าเงินระหว่างคู่เงินแทน เป็นการเก็งกำไรจากค่าเงิน ตลาดเงินจะคล่องตัวกว่าตลาดหุ้นมาก ใน Lite Forex จะมีเงินปลอมให้ทดลองเทรด ควรศึก ษาให้เข้าใจก่อน แล้วจึงเล่นด้วยเงินจริงค่ะ ขยันศึกษา+ฝึกฝน+มีระเบียบวินัย+การบริหารความเสี่ยง จะทำให้ประสบความสำเร็จใน Forex ได้ค่ะ
2. ฝากเงินเข้ายังไง ?
: การฝากเงินเข้าบัญชี เพื่อเทรด ที่สะดวกคือใช้ระบบ e-currency เมื่อก่อนจะใช้ e-gold ซึ่งหากท่านเคยทำพวกโปรแกรมคลิกเมลมาคงจะรู้จักดี แต่ปัจจุบัน เนื่องจากปัญหาบางอย่างของ e-gold แต่ก็มีบางครั้งที่สามารถฝากเข้าได้ แต่ตอนนี้ ที่สะดวกที่สุดคือใช้ e-bullion ซึ่งเป็นระบบ e-currency อีกตัวหนึ่ง และตอนนี้เว็บตลาดทอง เลิกซื้อขาย e-Gold แล้ว แต่เปลี่ยนมา ซื้อขาย e-bullion แทนเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ การฝากเงินเข้าตอนนี้ด้วย e-bullion จะสะดวกที่สุด ที่นิยมนำเข้า Trade - LR , Alert Pay
3. เห็นตามเว็บต่างๆ บอกสมัครแล้วได้ ฟรี $5 ทำไมได้แค่ $2.5 ?
: เมื่อก่อนสมัครแล้วจะได้ $5 สำหรับเทรด Forex ทันที แต่ช่วงประมาณต้นปีที่ผ่านมา มีการเพิ่ม Fund Rates (เทรดแบบกองทุน) เข้ามา (ดูจาก tab ด้านซ้ายบนของหน้าจอเทรด) จึงแบ่งเงินฟรีของเราออกเป็น Live Forex $2.5 + Live Fund $2.5 เราสามารถโอนจาก Live Fund มารวมใน Live Forex
- วิธีการโอน
1.คลิกที่ Withdraw 2.เลือก Account Trading 3.เลือก Purse ใส่ Amount
4. Margin คืออะไร?
: คือวงเงินของเรา จะมี Available Margin= วงเงินคงเหลือที่ใช้ซื้อขายได้, Used Margin= วงเงินที่เราใช้ไป
สูตร -> Available Margin = เงินในบัญชี - Used Margin + Profit
เมื่อเริ่มต้นเรามีเงินฟรี $5 ยังไม่ได้เทรด Used Margin เป็น 0 เราก็จะมี Available Margin=5.0 ถ้าเราทำการเทรดซื้อ EUR/USD ไป $1 จะเกิด Used Margin=1.0 และเหลือ Available Margin เกือบ 4.0 (เนื่องจากถูกหักค่า Spread 2 pips เป็นค่าติดลบใน Profit) ถ้าราคาขึ้นไปจนเราได้กำไร +10 point เราจะได้ Profit=0.1 ค่า Available Margin จะเพิ่มเป็น 4.1 point ถ้าราคา + ขึ้นไปเรื่อยๆ เราจะได้ Available Margin เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ในทางกลับกัน ถ้าเราขาดทุน ค่า Profit จะติด - และ Available Margin เราจะลดลงแทน หากเราไม่ตัดขาดทุนจะลดลงไปเรื่อยๆ จน Margin เกือบหมดเราจะถูกปิดโดยอัตโนมัติ เรียกว่า Margin Call โดนไปทีแทบไม่เหลืออะไรเลย จึงควรรักษา Margin ไว้ให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ
5. Pips หรือ Points คืออะไร?
: Pip (Price Interest Point) หรือ Point (จุด) คือ ค่าต่ำสุดของราคา ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งก็คือจุดทศนิยมหลักสุดท้ายของราคานั่นเอง เช่น EUR/USD ราคาอยู่ที่ 1.3630 เมื่อราคาขึ้นไปเป็น 1.3631 หรือ USD/JPY ราคาอยู่ที่ 115.70 ขึ้นไปเป็น 115.71 ก็คือขึ้นไป 1 Pip หรือ 1 point
6. Long และ Short คืออะไร?
: Long คือ ซื้อไว้แล้วขาย หลักคือเราต้องซื้อไว้ที่ราคาถูกแล้วไปขายที่ราคาแพงกว่า เราก็จะได้กำไรจากส่วนต่าง ตอนเราเปิด Long ก็คือ ส่งคำสั่งซื้อ หรือ Send Buy Order และจะเกิด Long Position ขึ้น
:Short คือ ขายออกแล้วซื้อกลับ หลักคือเราขายออกไปก่อนที่ราคาสูง แล้วไปซื้อกลับคืนเมื่อราคาต่ำกว่า เราก็จะได้กำไรที่ส่วนต่าง ตอนเราเปิด Short ก็คือ ส่งคำสั่งขาย หรือ Send Sell Order และจะเกิด Short Position ขึ้น
ตลาด Forex จะต่างจากตลาดหุ้น คือสามารถเทรดได้ทั้งสองทาง ทั้งซื้อและขาย เล่นได้ทั้ง ขาขึ้น และขาลง ตลาดหุ้นซื้อได้อย่างเดียว เล่นได้แต่ขาขึ้น ถ้าเป็นขาลงต้องนอนรออย่างเดียว
7. Stop-Loss (SL) คืออะไร?
: Stop Loss ปกติจะเห็นในห้องแชทพิมพ์ว่า SL (sl) คือจุดที่เรายอมขาดทุน ตรงข้ามกับ TP
- Buy (Long) Order ค่า Stop Loss จะตั้งไว้ต่ำกว่าราคาที่เราซื้อ ถ้าราคาลดลงไปถึงจุดที่กำหนด จะถูกปิดออเดอร์ทันที เพื่อตัดขาดทุน เช่น เราซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.3630 เรายอมขาดทุนได้ 30 จุด ก็ตั้ง SL ไว้ที่ 1.3600 ถ้าราคาไม่ขึ้นตามที่เราตั้งใจแต่กลับลดลงมาถึง 1.3600 เราก็จะขาดทุนเพียง 30 จุด ถ้าเราไม่ตัดขาดทุน ราคาอาจจะลดลงไปมากกว่านี้เยอะ
- Sell (Short) Order จะตั้ง Stop Loss ไว้สูงกว่าราคาที่เราเปิด Sell ถ้าราคาขึ้นไปถึงจุดนั้น จะถูกปิดโดยอัตโนมัติ
8.Target (Take Profit/TP) คืออะไร?
: Target หรือ TP (Take Profit) คือเป้าหมายกำไรที่เราต้องการ ตรงข้ามกับ SL
- Buy (Long) Order เราจะได้กำไรเมื่อราคาปรับขึ้น เราอาจใช้แนวต้าน เป็นเป้าหมายทำกำไร เมื่อราคาขึ้นไปถึงจุดนั้น จะถูกขายออกโดยอัตโนมัติ
- Sell (Short) Order เราจะได้กำไรเมื่อราคาปรับลดลง เราอาจใช้แนวรับเป็นเป้าหมาย เมื่อราคาลงไปถึงจุดนั้น จะถูกปิดออเดอร์ โดยอัตโนมัติ
9.การตั้งซื้อขายแบบ Limit / Stop คืออะไร?
: เป็นการตั้งซื้อขายไว้ล่วงหน้า หรือ Pending Order จะยังไม่มี Position เกิดขึ้น
Limit Order ใช้ตั้ง ซื้อที่ราคาต่ำกว่าราคาปัจจุบัน หรือ ตั้งขายที่ราคาสูงกว่าราคาปัจจุบัน ตัวอย่างถ้าตอนนี้ EUR/USD ราคาอยู่ที่ 1.2953/55 ถ้าเราคิดว่ามันเป็นเทรนขาขึ้น และราคาแพงเกินไป เราอยากซื้อราคาต่ำกว่านี้แต่ไม่ว่างนั่งดู เราอาจตั้ง Buy Limit Order ไว้ที่ราคา 1.2945 ถ้าราคาลดลงมาถึงจุดก็จะถูกซื้อโดยอัตโนมัติ และเมื่อราคาขึ้นไปตามคาด เราก็จะได้กำไรเพิ่มขึ้นถึง 10 จุด สำหรับ Sell Limit ก็กลับกัน
Stop Order คือ ตั้งซื้อที่ราคาสูงกว่าราคาปัจจุบัน หรือ ตั้งขายที่ราคาต่ำกว่าราคาปัจจุบัน ใช้เมื่อเราไม่ว่างนั่งเฝ้าอยู่ที่หน้าจอเทรด และใช้สำหรับจับเทรน ตัวอย่าง EUR/USD ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.2953/55 เราคิดว่าถ้าราคาผ่านแนวต้านที่ 1.2963/65 ขึ้นไป (Breakout) แล้วน่าจะขึ้นไปต่อ เราอาจตั้ง Buy Stop Order ไว้ที่ 1.2970 เมื่อราคาทะลุขึ้นไปก็จะซื้อให้อัตโนมัติ สำหรับ Sell Stop ก็กลับกันค่ะ ถ้าคิดว่าจะหลุดแนวรับเราก็ตั้ง Sell Stop Order ไว้ใต้แนวรับ
10.เวลาเปิดให้เทรดได้เวลาไหน และปิดเวลาใด?
: ตลาดเปิดให้เทรดเวลา 4.00 เช้าวันจันทร์ ไปจนถึงปิดเวลา 4.00 น. เช้าวันเสาร์ สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
11.เปิดซื้อขายทิ้งไว้ แล้วออกโปรแกรมไป หรือไฟดับ จะเป็นอะไรไหม?
: ไม่เป็นไรค่ะ ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ที่ทางโบรกเกอร์ เมื่อเรากลับเข้ามาอีกที อาจจะ + เป็น 100 หรือ - เป็น 100 ก็ได้ตามราคาตลาดในตอนนั้น หรือแม้แต่เปิดทิ้งไว้จนถึงปิดตลาดเช้าวันเสาร์ พอวันจันทร์ตลาดเปิด ก็ยัง + - ไปตามราคาตลาดต่อไป จนกว่าเราจะสั่งปิดเอง หรือ ราคาชน Target หรือ ราคาชน Stop-Loss หรือ ถูก Margin Call เพราะ margin หมด
12.Spread (2/3 pips) คืออะไร?
: ที่เห็น 2 pips หรือ 3 pips for EUR/USD เป็นผลต่างระหว่าง ราคาซื้อ (Bid) กับราคาขาย (Offer) ค่ะ ตอนที่เราซื้อเราจะซื้อที่ราคาขาย (Offer บางโบรกเกอร์ เรียกว่า Ask) พอจะขายก็ต้องขายที่ราคาซื้อ (Bid) นะค่ะ ยกตัวอย่าง ร้านทองก็มี ราคาซื้อ-ราคาขาย ติดไว้ที่หน้าร้าน เวลาคุณจะไปซื้อทอง ก็ต้องซื้อที่ราคาขาย (Offer) พอจะขายคืนก็ต้องขายให้ที่ราคาที่เค้ารับซื้อ (ฺBid) ถ้าซื้อแล้วขายเลยก็ขาดทุนแน่ๆ ค่ะ เพราะราคารับซื้อเค้าจะต่ำกว่าราคาขาย ใน Forex ก็คล้ายๆกัน จะเห็นว่าพอเราเปิดซื้อขายมาออเดอร์นึง จะลบทันที 2 จุด (pips) สำหรับ EUR/USD ใน Marketiva เหมือนเป็นค่าต๋งนะแหละค่ะ ยังไงเปิดมาก็ต้องลบ EUR/USD ปกติจะมี Spread ต่ำสุด แล้วแต่ว่าแต่ละโบรกเกอร์จะกำหนดเท่าไหร่ค่ะ บางโบรกเกอร์ก็ 3 pips สำหรับตัวอื่นค่า Spread ส่วนมากก็จะมากกว่านี้ค่ะ เช่น GBP/USD 4 pips หรือตัวที่วิ่งเยอะๆ เช่น GBP/JPY ถึง 8 pips เปิดมา -8 ทันทีเลยค่ะ
13. Leverage (ที่เห็น 1:100, 1:200) คืออะไร?
: Lever แปลว่า คาน Leverage แปลตรงตัว = กำลังคาน ค่ะ
สำหรับใน Forex ค่า Leverage เป็นตัวช่วยเวลาเราลงทุนค่ะ เป็นการให้ Margin เราเพิ่มตอนเทรด ยกตัวอย่าง ถ้าเราจะเทรด 100 หน่วยของ USD/JPY เราต้องใช้เงินถึง $100 ดอลลาร์ (Leverage 1:1) ถ้าโบรกเกอร์ให้ Leverage เรา 1:100 ก็คือ เราใช้เงินลงทุนเพียง $100/100=$1 หรือใช้เงินเพียง 1 ดอลลาร์เท่านั้น
แล้วมีผลยังไง? 1:100 เราลงทุน 1$ เหมือนลงทุนไป 100$ ทำให้เราได้กำไร (หรือขาดทุน) เพิ่มขึ้นด้วยเงินเพียงนิดเดียว ถ้า Leverage มากขึ้น ก็ยิ่ง กำไรขาดทุนมากขึ้นไปอีกค่ะ ที่เงินลงทุนเท่ากัน ยิ่ง Leverage เยอะเวลา - ยิ่งขาดทุนเยอะนะค่ะ ต้องระวังไว้ด้วย
ในโบรกเกอร์จะมีการกำหนด Leverage ที่ต่างกันแล้วแต่ทางโบรกเกอร์เค้าค่ะ 1:100, 1:200 หรือ บางโบรกเกอร์ 1:500 ก็มี ถ้าเราซื้อ EUR/USD $1 ถ้าราคาขึ้นไป 10 จุดแล้วขาย เราก็จะได้กำไร $0.1 ถ้าไม่มีค่า Leverage หรือเป็น 1:1 เราจะได้กำไรเพียง $0.001 เท่านั้น มารู้จัก Leverage กันค่ะ
Forex Market หรือ ตลาด Forex เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากกว่า US$ 2 trillion (2 ล้านล้านดอลลาร์) ต่อวัน เป็นตลาดการเงิน ที่มีสภาพคล่องสูงมาก ตลาดเปิดทำการซื้อขาย 24 ชั่วโมง ตลอดวันทำการ โดยหยุดการซื้อขาย แค่วัน เสาร์-อาทิตย์เท่านั้น การซื้อขายใน ตลาด Forex เป็นการซื้อขายค่าเงิน โดยซื้อเงินสกุลหนึ่ง ในขณะเดียวกัน ก็ขายเงินอีกสกุลหนึ่งออกไป หรือเป็นการจับคู่แลกเปลี่ยน ซื้อขายค่าสกุลเงินนั่นเอง ตัวอย่างเช่น เงินสกุลยูโร/ดอลลาร์สหรัฐฯ (EUR/USD) หรือ เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น (USD/JPY) เงินสกุลปอนด์/ดอลล่าร์สหรัฐ (GBP/USD) เป็นต้น
แต่การที่เราจะเล่น Forex เราจะต้องเล่นผ่าน โปรเกอร์ทางอินเตอร์เน็ต และในที่นี้โปรเกอร์ที่แนะนำก็คือ Lite Forex เพราะสมัครฟรี และมีAccount Demo ที่เป็นเงินปลอมไว้ให้หัดเล่น (เล่นเงินปลอมให้ชำนาญก่อนนะ) วันนี้เราจะมารู้จักกับตลาด Forex ให้มากขึ้น
ช่วงเวลาทำการของตลาด?
ตลาดForex นั้นมีหลายแห่งในโลก มีเวลาการเปิดปิดที่คาบเกี่ยวกัน ทำให้เราสามารถลงทุนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ โดยตลาดต่างๆ มีเวลาเปิดปิดดังนี้
ตามเวลาประเทศไทย ตลาดจะเปิดทำการตั้งแต่เวลาตี 4 ของเช้าวันจันทร์ และปิดตี 4 ของเช้าวันเสาร์ (รวม 120 ชั่วโมงต่อสัปดาห์)
ตลาด USD = US Dollar เปิดเวลา 19.00 น. ถึงตี 3
ตลาด GBP = British Pound เปิดเวลา 14.00 - 22.00 น.
ตลาด EUR = Euro เปิดเวลา 13.00 - 21.00 น.
ตลาด CHF = Swiss Franc เปิดเวลา 13.00 - 21.00 น.
ตลาด JPY = Japanese Yen เปิดเวลา 7.00 - 14.00 น.
ตลาด AUD = Australian Dollar เปิดเวลา 5.00 - 13.00 น.
สิ่งที่ควรรู้ ในการเล่นหุ้น-ซื้อขาย สกุลเงิน
1. Forex แล้วได้เงินจริงหรือเปล่า ?
: ได้จริงและเสียจริง อยู่ที่ว่าคุณทำได้หรือเปล่า มันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ คุณต้องขยันศึกษาหาความรู้ หาเทคนิคในการทำกำไร มีหลายคนทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ ทำเป็นอาชีพหลักได้เลย อยู่ที่การฝึกฝนค่ะ เหมือนเป็นอาชีพหนึ่งถ้าคุณตั้งใจ การเล่น Forex จะคล้ายๆ การเล่นหุ้น แต่เป็นการซื้อขายค่าเงินระหว่างคู่เงินแทน เป็นการเก็งกำไรจากค่าเงิน ตลาดเงินจะคล่องตัวกว่าตลาดหุ้นมาก ใน Lite Forex จะมีเงินปลอมให้ทดลองเทรด ควรศึก ษาให้เข้าใจก่อน แล้วจึงเล่นด้วยเงินจริงค่ะ ขยันศึกษา+ฝึกฝน+มีระเบียบวินัย+การบริหารความเสี่ยง จะทำให้ประสบความสำเร็จใน Forex ได้ค่ะ
2. ฝากเงินเข้ายังไง ?
: การฝากเงินเข้าบัญชี เพื่อเทรด ที่สะดวกคือใช้ระบบ e-currency เมื่อก่อนจะใช้ e-gold ซึ่งหากท่านเคยทำพวกโปรแกรมคลิกเมลมาคงจะรู้จักดี แต่ปัจจุบัน เนื่องจากปัญหาบางอย่างของ e-gold แต่ก็มีบางครั้งที่สามารถฝากเข้าได้ แต่ตอนนี้ ที่สะดวกที่สุดคือใช้ e-bullion ซึ่งเป็นระบบ e-currency อีกตัวหนึ่ง และตอนนี้เว็บตลาดทอง เลิกซื้อขาย e-Gold แล้ว แต่เปลี่ยนมา ซื้อขาย e-bullion แทนเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ การฝากเงินเข้าตอนนี้ด้วย e-bullion จะสะดวกที่สุด ที่นิยมนำเข้า Trade - LR , Alert Pay
3. เห็นตามเว็บต่างๆ บอกสมัครแล้วได้ ฟรี $5 ทำไมได้แค่ $2.5 ?
: เมื่อก่อนสมัครแล้วจะได้ $5 สำหรับเทรด Forex ทันที แต่ช่วงประมาณต้นปีที่ผ่านมา มีการเพิ่ม Fund Rates (เทรดแบบกองทุน) เข้ามา (ดูจาก tab ด้านซ้ายบนของหน้าจอเทรด) จึงแบ่งเงินฟรีของเราออกเป็น Live Forex $2.5 + Live Fund $2.5 เราสามารถโอนจาก Live Fund มารวมใน Live Forex
- วิธีการโอน
1.คลิกที่ Withdraw 2.เลือก Account Trading 3.เลือก Purse ใส่ Amount
4. Margin คืออะไร?
: คือวงเงินของเรา จะมี Available Margin= วงเงินคงเหลือที่ใช้ซื้อขายได้, Used Margin= วงเงินที่เราใช้ไป
สูตร -> Available Margin = เงินในบัญชี - Used Margin + Profit
เมื่อเริ่มต้นเรามีเงินฟรี $5 ยังไม่ได้เทรด Used Margin เป็น 0 เราก็จะมี Available Margin=5.0 ถ้าเราทำการเทรดซื้อ EUR/USD ไป $1 จะเกิด Used Margin=1.0 และเหลือ Available Margin เกือบ 4.0 (เนื่องจากถูกหักค่า Spread 2 pips เป็นค่าติดลบใน Profit) ถ้าราคาขึ้นไปจนเราได้กำไร +10 point เราจะได้ Profit=0.1 ค่า Available Margin จะเพิ่มเป็น 4.1 point ถ้าราคา + ขึ้นไปเรื่อยๆ เราจะได้ Available Margin เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ในทางกลับกัน ถ้าเราขาดทุน ค่า Profit จะติด - และ Available Margin เราจะลดลงแทน หากเราไม่ตัดขาดทุนจะลดลงไปเรื่อยๆ จน Margin เกือบหมดเราจะถูกปิดโดยอัตโนมัติ เรียกว่า Margin Call โดนไปทีแทบไม่เหลืออะไรเลย จึงควรรักษา Margin ไว้ให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ
5. Pips หรือ Points คืออะไร?
: Pip (Price Interest Point) หรือ Point (จุด) คือ ค่าต่ำสุดของราคา ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งก็คือจุดทศนิยมหลักสุดท้ายของราคานั่นเอง เช่น EUR/USD ราคาอยู่ที่ 1.3630 เมื่อราคาขึ้นไปเป็น 1.3631 หรือ USD/JPY ราคาอยู่ที่ 115.70 ขึ้นไปเป็น 115.71 ก็คือขึ้นไป 1 Pip หรือ 1 point
6. Long และ Short คืออะไร?
: Long คือ ซื้อไว้แล้วขาย หลักคือเราต้องซื้อไว้ที่ราคาถูกแล้วไปขายที่ราคาแพงกว่า เราก็จะได้กำไรจากส่วนต่าง ตอนเราเปิด Long ก็คือ ส่งคำสั่งซื้อ หรือ Send Buy Order และจะเกิด Long Position ขึ้น
:Short คือ ขายออกแล้วซื้อกลับ หลักคือเราขายออกไปก่อนที่ราคาสูง แล้วไปซื้อกลับคืนเมื่อราคาต่ำกว่า เราก็จะได้กำไรที่ส่วนต่าง ตอนเราเปิด Short ก็คือ ส่งคำสั่งขาย หรือ Send Sell Order และจะเกิด Short Position ขึ้น
ตลาด Forex จะต่างจากตลาดหุ้น คือสามารถเทรดได้ทั้งสองทาง ทั้งซื้อและขาย เล่นได้ทั้ง ขาขึ้น และขาลง ตลาดหุ้นซื้อได้อย่างเดียว เล่นได้แต่ขาขึ้น ถ้าเป็นขาลงต้องนอนรออย่างเดียว
7. Stop-Loss (SL) คืออะไร?
: Stop Loss ปกติจะเห็นในห้องแชทพิมพ์ว่า SL (sl) คือจุดที่เรายอมขาดทุน ตรงข้ามกับ TP
- Buy (Long) Order ค่า Stop Loss จะตั้งไว้ต่ำกว่าราคาที่เราซื้อ ถ้าราคาลดลงไปถึงจุดที่กำหนด จะถูกปิดออเดอร์ทันที เพื่อตัดขาดทุน เช่น เราซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.3630 เรายอมขาดทุนได้ 30 จุด ก็ตั้ง SL ไว้ที่ 1.3600 ถ้าราคาไม่ขึ้นตามที่เราตั้งใจแต่กลับลดลงมาถึง 1.3600 เราก็จะขาดทุนเพียง 30 จุด ถ้าเราไม่ตัดขาดทุน ราคาอาจจะลดลงไปมากกว่านี้เยอะ
- Sell (Short) Order จะตั้ง Stop Loss ไว้สูงกว่าราคาที่เราเปิด Sell ถ้าราคาขึ้นไปถึงจุดนั้น จะถูกปิดโดยอัตโนมัติ
8.Target (Take Profit/TP) คืออะไร?
: Target หรือ TP (Take Profit) คือเป้าหมายกำไรที่เราต้องการ ตรงข้ามกับ SL
- Buy (Long) Order เราจะได้กำไรเมื่อราคาปรับขึ้น เราอาจใช้แนวต้าน เป็นเป้าหมายทำกำไร เมื่อราคาขึ้นไปถึงจุดนั้น จะถูกขายออกโดยอัตโนมัติ
- Sell (Short) Order เราจะได้กำไรเมื่อราคาปรับลดลง เราอาจใช้แนวรับเป็นเป้าหมาย เมื่อราคาลงไปถึงจุดนั้น จะถูกปิดออเดอร์ โดยอัตโนมัติ
9.การตั้งซื้อขายแบบ Limit / Stop คืออะไร?
: เป็นการตั้งซื้อขายไว้ล่วงหน้า หรือ Pending Order จะยังไม่มี Position เกิดขึ้น
Limit Order ใช้ตั้ง ซื้อที่ราคาต่ำกว่าราคาปัจจุบัน หรือ ตั้งขายที่ราคาสูงกว่าราคาปัจจุบัน ตัวอย่างถ้าตอนนี้ EUR/USD ราคาอยู่ที่ 1.2953/55 ถ้าเราคิดว่ามันเป็นเทรนขาขึ้น และราคาแพงเกินไป เราอยากซื้อราคาต่ำกว่านี้แต่ไม่ว่างนั่งดู เราอาจตั้ง Buy Limit Order ไว้ที่ราคา 1.2945 ถ้าราคาลดลงมาถึงจุดก็จะถูกซื้อโดยอัตโนมัติ และเมื่อราคาขึ้นไปตามคาด เราก็จะได้กำไรเพิ่มขึ้นถึง 10 จุด สำหรับ Sell Limit ก็กลับกัน
Stop Order คือ ตั้งซื้อที่ราคาสูงกว่าราคาปัจจุบัน หรือ ตั้งขายที่ราคาต่ำกว่าราคาปัจจุบัน ใช้เมื่อเราไม่ว่างนั่งเฝ้าอยู่ที่หน้าจอเทรด และใช้สำหรับจับเทรน ตัวอย่าง EUR/USD ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.2953/55 เราคิดว่าถ้าราคาผ่านแนวต้านที่ 1.2963/65 ขึ้นไป (Breakout) แล้วน่าจะขึ้นไปต่อ เราอาจตั้ง Buy Stop Order ไว้ที่ 1.2970 เมื่อราคาทะลุขึ้นไปก็จะซื้อให้อัตโนมัติ สำหรับ Sell Stop ก็กลับกันค่ะ ถ้าคิดว่าจะหลุดแนวรับเราก็ตั้ง Sell Stop Order ไว้ใต้แนวรับ
10.เวลาเปิดให้เทรดได้เวลาไหน และปิดเวลาใด?
: ตลาดเปิดให้เทรดเวลา 4.00 เช้าวันจันทร์ ไปจนถึงปิดเวลา 4.00 น. เช้าวันเสาร์ สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
11.เปิดซื้อขายทิ้งไว้ แล้วออกโปรแกรมไป หรือไฟดับ จะเป็นอะไรไหม?
: ไม่เป็นไรค่ะ ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ที่ทางโบรกเกอร์ เมื่อเรากลับเข้ามาอีกที อาจจะ + เป็น 100 หรือ - เป็น 100 ก็ได้ตามราคาตลาดในตอนนั้น หรือแม้แต่เปิดทิ้งไว้จนถึงปิดตลาดเช้าวันเสาร์ พอวันจันทร์ตลาดเปิด ก็ยัง + - ไปตามราคาตลาดต่อไป จนกว่าเราจะสั่งปิดเอง หรือ ราคาชน Target หรือ ราคาชน Stop-Loss หรือ ถูก Margin Call เพราะ margin หมด
12.Spread (2/3 pips) คืออะไร?
: ที่เห็น 2 pips หรือ 3 pips for EUR/USD เป็นผลต่างระหว่าง ราคาซื้อ (Bid) กับราคาขาย (Offer) ค่ะ ตอนที่เราซื้อเราจะซื้อที่ราคาขาย (Offer บางโบรกเกอร์ เรียกว่า Ask) พอจะขายก็ต้องขายที่ราคาซื้อ (Bid) นะค่ะ ยกตัวอย่าง ร้านทองก็มี ราคาซื้อ-ราคาขาย ติดไว้ที่หน้าร้าน เวลาคุณจะไปซื้อทอง ก็ต้องซื้อที่ราคาขาย (Offer) พอจะขายคืนก็ต้องขายให้ที่ราคาที่เค้ารับซื้อ (ฺBid) ถ้าซื้อแล้วขายเลยก็ขาดทุนแน่ๆ ค่ะ เพราะราคารับซื้อเค้าจะต่ำกว่าราคาขาย ใน Forex ก็คล้ายๆกัน จะเห็นว่าพอเราเปิดซื้อขายมาออเดอร์นึง จะลบทันที 2 จุด (pips) สำหรับ EUR/USD ใน Marketiva เหมือนเป็นค่าต๋งนะแหละค่ะ ยังไงเปิดมาก็ต้องลบ EUR/USD ปกติจะมี Spread ต่ำสุด แล้วแต่ว่าแต่ละโบรกเกอร์จะกำหนดเท่าไหร่ค่ะ บางโบรกเกอร์ก็ 3 pips สำหรับตัวอื่นค่า Spread ส่วนมากก็จะมากกว่านี้ค่ะ เช่น GBP/USD 4 pips หรือตัวที่วิ่งเยอะๆ เช่น GBP/JPY ถึง 8 pips เปิดมา -8 ทันทีเลยค่ะ
13. Leverage (ที่เห็น 1:100, 1:200) คืออะไร?
: Lever แปลว่า คาน Leverage แปลตรงตัว = กำลังคาน ค่ะ
สำหรับใน Forex ค่า Leverage เป็นตัวช่วยเวลาเราลงทุนค่ะ เป็นการให้ Margin เราเพิ่มตอนเทรด ยกตัวอย่าง ถ้าเราจะเทรด 100 หน่วยของ USD/JPY เราต้องใช้เงินถึง $100 ดอลลาร์ (Leverage 1:1) ถ้าโบรกเกอร์ให้ Leverage เรา 1:100 ก็คือ เราใช้เงินลงทุนเพียง $100/100=$1 หรือใช้เงินเพียง 1 ดอลลาร์เท่านั้น
แล้วมีผลยังไง? 1:100 เราลงทุน 1$ เหมือนลงทุนไป 100$ ทำให้เราได้กำไร (หรือขาดทุน) เพิ่มขึ้นด้วยเงินเพียงนิดเดียว ถ้า Leverage มากขึ้น ก็ยิ่ง กำไรขาดทุนมากขึ้นไปอีกค่ะ ที่เงินลงทุนเท่ากัน ยิ่ง Leverage เยอะเวลา - ยิ่งขาดทุนเยอะนะค่ะ ต้องระวังไว้ด้วย
ในโบรกเกอร์จะมีการกำหนด Leverage ที่ต่างกันแล้วแต่ทางโบรกเกอร์เค้าค่ะ 1:100, 1:200 หรือ บางโบรกเกอร์ 1:500 ก็มี ถ้าเราซื้อ EUR/USD $1 ถ้าราคาขึ้นไป 10 จุดแล้วขาย เราก็จะได้กำไร $0.1 ถ้าไม่มีค่า Leverage หรือเป็น 1:1 เราจะได้กำไรเพียง $0.001 เท่านั้น มารู้จัก Leverage กันค่ะ
- Leverage 1:100 แปลว่า เราใช้ทุนของเราเองเพียง 1 เพื่อสั่งซื้อ-ขาย 100 เช่น เราจะสั่งซื้อ EUR
มาถือไว้ โดยจะซื้อที่ราคา 1.3502 จำนวน 100
USD (คือได้มา 74.0631 EUR) เราไม่ต้องใช้
100 USD ค่ะ เราจะใช้เพียง 1 USD เพื่อแลก
74.0631 EUR มาถือไว้ ซึ่งเมื่อเราขายคืนไปที่ 1.3552
หรือกำไรมา 0.0050 แทนที่เราจะกำไรแค่ นั้น
จะกลายเป็นว่าเราจะทำกำไรได้ 0.50 usd แปลว่าเราสามารถทำกำไรได้
50% จากเงินที่เราลง (เราลงเพียง $1 เพื่อทำกำไร $0.50)
- แต่ไม่ต้องห่วงนะค่ะ
ว่าเราจะมีเงินพอรึเปล่า เวลามี Leverage
แบบนี้ เพราะเวลาเทรดเราจะสั่งเทรดอย่างมาก ไม่เกิน 40%
ของทุน (แต่แนะนำที่ 10% ค่ะ จะได้มีเหลือไว้แก้ตัว)
เช่นถ้าเรามีทุน $100 เราก็สั่งเทรดเพียง $10 หรือ 10% (แต่เวลาสั่ง $10 คือ 1,000 unit นะค่ะ ที่ Leverage
1:100) 10% ที่ใช้ เราจะเรียกว่า used margin เวลาราคาวิ่งขึ้นหรือลง มันจะมาบวก หรือ ลบ ที่ 90% ที่เหลือ หรือที่เรียกว่า available margin หากเราติดลบไปเรื่อยๆ
จน available หมด ระบบจะทำการตัดขาดทุน โดยการปิด order
นี้ โดยอัตโนมัติ นั่นคือ โบรกเกอร์จะไม่ยอมขาดทุนแทนเราหรอกค่ะ
- คิดคร่าวๆ คือ เราจะทำกำไร
(ขาดทุน) ได้ ประมาณ 1% ต่อ pip
จากเงินทุนของเรา (คู่อื่นอาจจะไม่ถึง 1%
บางคู่ก็มากกว่า เช่น EUR/GBP ตกประมาณ 2%
ค่ะ) นั่น หมายความว่า ด้วยทุนเพียง $100 (3,400 บาท) คุณจะสามารถทำกำไรได้ถึงจุดละ $1 (สั่งเทรด
10,000 unit) หากทำได้ 10 จุดต่อวัน
ก็วันละ $10 หรือ 340 บาท
(โดยประมาณ) หรือวันละ 10% และด้วยทุนเพียง
$1,000 (34,000 บาท) เราจะสามารถทำกำไรได้ถึงจุดละ $10
(สั่งเทรด 100,000 unit) หากทำได้ 10
จุดต่อวัน ก็วันละ $100 หรือ 3,400
บาท หรืออาจจะเริ่มเพียง $1 (34 บาท)
โดยจะได้จุดละประมาณ 1 เซ็นต์
- ค่อยๆ สะสมไปก็ได้ค่ะ
เพราะมีแล้วคนที่ปั้น $5 จากทุนฟรีที่ Marketiva (โบรกเกอร์) มีให้
ไปเป็น $1,000 ใน 3 เดือน ลอง
คิดดูเล่นๆล่ะกันค่ะ ถ้าเพียงคุณสามารถทำกำไรได้ 10% ของทุนต่อวัน
เพิ่มไปเรื่อยๆ 6 เดือน (120 วันเทรด)
จะเป็นเงินเท่าไหร่ จากทุนเพียง $5 เป็น $463,545.34
หรือ 15,765,541.60 บาท ครับ โอ้ววววว
พระเจ้าช่วย (ทำได้แค่ 5% ของไอเดียนี้ก็สุดยอดแล้วค่ะ)
- ปกติ EUR/USD จะไม่แรงมาก ทำวันละ 20-30 จุดได้ หากเป็นบางคู่ เช่น GBP/JYP (ทุกวันนี้ผมเล่น
GBP/JYP เป็นหลัก เพราะแรง เร้าใจ) ดิฉันเคยทำได้มากสุด
+250 จุด เพียงช่วงเวลาที่หลับ (เที่ยงคืน)
จนมาถึงเวลาที่ตื่น (7 โมงครึ่ง) หรือ 250% ของเงินทุนที่เทรด
- ที่ FxOpen (โบรกเกอร์) ให้เราสามารถ up
Leverage ได้สูงสุดถึง 1:500 นั่นแปลว่า
เราใช้ทุนตัวเองเพียง $200 ในการเทรด 100,000
unit (หรือ 1 lot จะได้จุดละ $10)
เอง
- แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Leverage ก็เป็นดาบ 2 คม ที่ทั้งทำให้ รวย-จน ได้ในพริบตา Leverage และการที่มันวิ่งขึ้นลงทั้งวัน
นี่แหล่ะค่ะ ที่ทำให้ Forex สนุก และเร้าใจ -
คุณสามารถลงทุนใน Forex แทนได้ โดยใช้ทุนเริ่มต้นเพียงน้อยนิด
มาเริ่มเรียนรู้การลงทุนและทำเงินจาก Forex Trading ได้ที่นี่ และจงจำไว้เสมอว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง"
:.เทรดสั้นๆ (น้อยกว่า 5 นาที) เกิน 10 ครั้งใน 4 ชั่วโมง หรือ 50 ครั้งใน 7 วัน
เทรดรวม (ทั้งเทรดสั้นและเทรดปกติ) รวม 200 ครั้ง ใน 7 วัน
คุณจะถูกระงับการเทรดชั่วคราว ไม่สามารถเปิดซื้อขายได้ ทั้งนี้ นับรวมทั้ง เทรดด้วยเงินจริง (Live Forex) และ เงินปลอม (Virtual Forex) นะค่ะ ระวังจุดนี้ด้วย ไม่เช่นนั้นเราจะเปิดซื้อขายไม่ได้ เท่าที่เคยถามซัพพอร์ตไป ต้องรอ 1-7 วัน จึงจะเทรดได้อีก